ก.ล.ต. พัฒนาตลาดทุนไทยสู่ "ตลาดทุนดิจิทัล"

04 กรกฎาคม 2566
อ่าน 4 นาที



การพัฒนาตลาดทุนไทยสู่ “ตลาดทุนดิจิทัล” เป็นเป้าหมายหนึ่งของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยส่งเสริมให้ตลาดทุนไทยดำเนินการทุกขั้นตอนโดยใช้ระบบเทคโนโลยีดิจิทัล
เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว โปร่งใสตรวจสอบได้ มีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์
ตามมาตรฐานสากล สามารถเชื่อมโยงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายในตลาดทุนทั้งหมดให้เข้ามาอยู่ในระบบและ
มาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้ตลาดทุนไทยมีการเติบโตอย่างยั่งยืน สามารถแข่งขันกับตลาดทุนต่างประเทศและ
ส่งเสริมศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศ

การเปลี่ยนผ่านไปสู่ตลาดทุนดิจิทัลถูกกำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ของ ก.ล.ต. มีเป้าหมายสำคัญเพื่อส่งเสริม
ศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ก.ล.ต. ได้ดำเนินการไปพร้อมกันหลายส่วน ดังนี้

1. พัฒนาระบบนิเวศที่สามารถรองรับการแข่งขัน แนวทางการพัฒนาระบบนิเวศด้านการลงทุนที่สำคัญคือ
การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและกฎเกณฑ์ให้ทันสมัยในหลายด้าน ซึ่ง ก.ล.ต. ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องโดย
ส่งเสริมการดำเนินการและการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดทุนให้เท่าทันสภาพแวดล้อมและบริบท
ของโลกการลงทุนในยุคดิจิทัล มีความยืดหยุ่น และสามารถรองรับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงในอนาคต
โดยยังคงมีการกำกับดูแลที่เหมาะสม

ทั้งนี้ ในช่วงต้นปี 2566 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการร่างกฎหมายตลาดทุน 4 ฉบับ ประกอบด้วย
(1) ร่าง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ (2) ร่าง พ.ร.บ.สัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯ (3) ร่าง พ.ร.บ.ทรัสต์
เพื่อธุรกรรมในตลาดทุนฯ และ (4) ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลฯ
เพื่อส่งเสริมการมุ่งสู่ตลาดทุนดิจิทัลได้ครบถ้วนทั้งระบบ

2. นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาส่งเสริมการพัฒนาและกำกับดูแลตลาดทุน รวมถึงการนำเทคโนโลยีมา
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องปรามและตรวจสอบการกระทำผิดในตลาดทุน (E-enforcement) และการ
พัฒนาโครงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure: DIF) ซึ่งจะเชื่อมโยงผู้มีส่วน
เกี่ยวข้องในตลาดทุนทั้งหมดมาอยู่ในระบบและมาตรฐานเดียวกันทั้งอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น

  • ผู้ระดมทุน ที่ต้องการออกเสนอขายหลักทรัพย์ทุกขั้นตอนอยู่ในรูปแบบดิจิทัล ลดขั้นตอน ลดเวลาดำเนินการ
  • ผู้ลงทุน สามารถรับบริการดิจิทัลแบบ end-to-end service ตั้งแต่การเปิดบัญชี ส่งคำสั่งซื้อขาย รับหลักทรัพย์เข้าบัญชี แสดงข้อมูลพอร์ตโฟลิโอ แจ้งเตือนสิทธิ์ผู้ลงทุน
  • ​ผู้ประกอบธุรกิจตัวกลาง ดำเนินการอย่างเป็นมาตรฐานด้วยชุดข้อมูลเดียวกัน (single source) โดยข้อมูลจะถูกบันทึกและส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยลดความผิดพลาดและระยะเวลาการทํางาน ทั้งยังมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ใช้มีความครบถ้วน ถูกต้องแม่นยํา
  • หน่วยงานกํากับดูแล รับข้อมูลและแจ้งผลการพิจารณาการออกเสนอขายหลักทรัพย์ในรูปแบบดิจิทัลทั้งหมดโดยที่ไม่มีกระดาษ (paperless) ซึ่งจะเป็นการช่วยลดระยะของกระบวนการออกเสนอขายโดยรวมได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ ในระยะยาวยังช่วยให้มีข้อมูลเพียงพอในการกําหนดนโยบายที่เหมาะสมต่อการพัฒนาธุรกิจตลาดทุนต่อไปในอนาคต
สำหรับการพัฒนา DIF อยู่ภายใต้ Sandbox* ซึ่งเป็นพื้นที่ในการพัฒนาและทดสอบระบบเพื่อให้มั่นใจก่อน
เปิดให้มีการใช้ระบบอย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ การพัฒนาตลาดทุนดิจิทัลในระยะแรกบรรลุผลสำเร็จไปแล้ว สามารถ
ให้ธุรกิจเอกชนออกเสนอขายตราสารหนี้ภายใต้ระบบดิจิทัล 100% และการพัฒนานี้ยังเดินหน้าต่อไปเพื่อ
ขยายไปสู่การออกหลักทรัพย์ชนิดอื่นได้ครบถ้วน

3. ปรับตัวสู่องค์กรดิจิทัลเมื่อวางเป้าหมายก้าวสู่ตลาดทุนดิจิทัล การให้บริการด้านต่าง ๆ ของ ก.ล.ต. ย่อมต้อง
ปรับไปสู่องค์กรดิจิทัลโดยการดำเนินงานทั้งหมดอยู่ภายใต้หลักการ “เข้าถึงไว เข้าใจง่าย ได้ผลเร็ว” ดังจะ
เห็นได้จากปัจจุบัน ก.ล.ต.ให้บริการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในตลาดทุนตามแผนการพัฒนาบริการดิจิทัล (SEC
Digital Services) เช่น การให้บริการสำหรับผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน เช่น e-License, e-Document และ
e-Reporting

สำหรับบริการสําหรับภาคประชาชน ก.ล.ต. ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน เช่น “SEC Check First” เพื่อเป็น
เครื่องมือปกป้องความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวงให้ลงทุน ประชาชน หรือผู้ลงทุนสามารถใช้เครื่องมือดังกล่าว
ตรวจสอบข้อมูลบุคคล นิติบุคคล และผลิตภัณฑ์เพื่อการลงทุนได้ว่า ได้รับการอนุญาตจาก ก.ล.ต. แล้วหรือไม่
“SEC Bond Check” เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยค้นหาข้อมูลตราสารหนี้ได้ง่ายและสะดวก “SEC Fund Check”
เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยค้นหาและเปรียบเทียบข้อมูลกองทุน นอกจากนี้ ก.ล.ต.ยังมีบริการข้อมูลเปิดตลาดทุน
(SEC Open Data) ทั้งในส่วนของตลาดทุนและตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถนำไปใช้
ประโยชน์และพัฒนานวัตกรรมต่อยอดได้

การมุ่งสู่ตลาดทุนดิจิทัลยังเปิดโอกาสให้ตลาดทุนเป็นแหล่งระดมทุนสำหรับกลุ่มธุรกิจ SME/Startup ได้ง่าย
ขึ้น โดยปัจจุบันมี SME/Startup หลายแห่งสามารถใช้ประโยชน์จากตลาดทุนผ่านการระดมทุนแบบ
crowdfunding และมีมูลค่าการระดมทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 ณ สิ้นเดือนเมษายน มีการ
ระดมทุนผ่าน crowdfunding มูลค่ารวม 2,142.59 ล้านบาท

การพัฒนาตลาดทุนไทยสู่ตลาดทุนดิจิทัลตามแผนยุทธศาสตร์ของ ก.ล.ต. จะส่งเสริมให้ตลาดทุนไทยเติบโต
อย่างยั่งยืน สามารถแข่งขันกับตลาดทุนต่างประเทศและเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
ให้แข็งแกร่ง ก้าวหน้าและยั่งยืน
                                       *************************
หมายเหตุ : * คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ ทำความรู้จัก DIF : Web Portal ก้าวแรกสู่ Digital Bondผ่านระบบโครงสร้างพื้นฐาน